รากเทียมเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันและต้องการฟื้นฟูรอยยิ้มให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม แต่หลายคนอาจสงสัยว่า รากเทียมมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน? และ ต้องดูแลอย่างไรเพื่อให้ใช้ได้ตลอดชีวิต? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุของรากเทียม และเคล็ดลับการดูแลที่ช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนานที่สุดค่ะ
อายุการใช้งานของรากเทียมโดยเฉลี่ย
โดยทั่วไปแล้ว รากเทียมสามารถอยู่ได้นานกว่า 10-30 ปี หรือแม้แต่ตลอดชีวิต หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบบางอย่างอาจส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง เช่น สุขภาพช่องปาก การดูแลรักษา และพฤติกรรมการใช้ฟัน
ส่วนประกอบของรากเทียมที่มีผลต่ออายุการใช้งาน
รากเทียมประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ซึ่งแต่ละส่วนมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน
1.รากไทเทเนียม (Implant Post): ส่วนที่ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร มีอายุการใช้งานยาวนานและแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนหากไม่มีปัญหาใดๆ
2.แกนต่อ (Abutment): เป็นตัวเชื่อมระหว่างรากเทียมกับครอบฟัน มีโอกาสสึกหรอได้เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
3.ครอบฟัน (Crown): มักทำจากเซรามิกหรือพอร์ซเลน มีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี และอาจต้องเปลี่ยนใหม่หากเกิดการสึกกร่อนหรือแตก
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของรากเทียม
สุขภาพของผู้ป่วย
- ผู้ที่มีสุขภาพช่องปากดี ไม่มีโรคเหงือก จะมีโอกาสที่รากเทียมจะอยู่ได้นานกว่า
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคกระดูกพรุน อาจมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียกระดูกขากรรไกร ส่งผลต่อความแข็งแรงของรากเทียม
การดูแลสุขภาพช่องปาก
- หากแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ จะช่วยลดคราบแบคทีเรียที่อาจทำให้เหงือกอักเสบและส่งผลกระทบต่อรากเทียม
พฤติกรรมการใช้ฟัน
- การกัดของแข็ง เช่น น้ำแข็ง กระดูก หรือกัดเล็บ อาจทำให้ครอบฟันเสียหายเร็วกว่าปกติ
- การนอนกัดฟันสามารถทำให้รากเทียมรับแรงกดมากเกินไป จนอาจทำให้เกิดปัญหาได้
การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
- บุหรี่ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตในเหงือก อาจทำให้การยึดติดของรากเทียมไม่แน่นหนา
- แอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในช่องปาก
คุณภาพของรากเทียมและฝีมือทันตแพทย์
- การเลือกใช้รากเทียมคุณภาพสูงและติดตั้งโดยทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้รากเทียมอยู่ได้นานขึ้น
เคล็ดลับการดูแลรากเทียมให้ใช้งานได้นานที่สุด
แปรงฟันอย่างถูกต้อง
• ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม และแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
• ใช้ยาสีฟันที่ไม่มีสารกัดกร่อนสูง เพื่อป้องกันการสึกกร่อนของครอบฟัน
ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ
• ใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดซอกฟันรอบรากเทียม
• ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
เข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำ
• ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสอบว่ารากเทียมอยู่ในสภาพดีหรือไม่
• ทำความสะอาดคราบพลัคและหินปูนรอบรากเทียมเพื่อป้องกันโรคเหงือก
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้รากเทียมเสียหาย
• หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง เช่น กระดูก น้ำแข็ง หรือของเหนียวๆ
• หากมีปัญหานอนกัดฟัน ควรใส่เฝือกสบฟันป้องกัน
งดสูบบุหรี่และลดแอลกอฮอล์
• การเลิกบุหรี่จะช่วยให้เหงือกและกระดูกขากรรไกรแข็งแรงขึ้น
• ลดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในช่องปาก
การได้รับการดูแลที่เหมาะสม รากเทียมสามารถอยู่ได้นานถึง 30 ปี หรือตลอดชีวิต โดยสิ่งสำคัญคือการรักษาความสะอาดช่องปาก หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้รากเทียมเสียหาย และเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำ หากคุณกำลังพิจารณาทำรากเทียม การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ารากเทียมของคุณจะอยู่กับคุณไปได้นานที่สุด ผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจอยากเข้ารับการทำรากเทียม เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับรอยยิ้มและการใช้งานช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือต้องการรับคำปรึกษาในเรื่องของการดูแลรักษารากเทียมเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ PMDC ศูนย์ทันตกรรมเพื่อความงาม ที่ดูแลคุณอย่างใส่ใจ โดยทันตแพทย์มากประสบการณ์ ติดตามนัดหมายการรักษาอย่างใส่ใจ เพราะเราอยากให้คุณมีรอยยิ้มและสุขภาพช่องปากที่สวยงามแข็งแรงค่ะ